Jumat, 19 Juni 2009

บางจากแก๊สโซฮอล์ คลับ

ฉลาดใช้พลังงาน คุ้มค่าอย่างมีสไตล์ บางจาก...ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ภูมิใจที่คุณได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน เพื่อชาติ เพื่อคุณ

ข้อเสนอที่ตอบสนองความต้องการด้านพลังงานทดแทนสูงสุดของคุณ "บัตรบางจากแก๊สโซฮอล์ คลับ" ให้คุณได้มั่นใจสูงสุดกับคุณภาพน้ำมันระดับมาตรฐานสากล บริการที่รวดเร็วครบครัน และน่าประทับใจของบางจาก

พร้อมรับสิทธิประโยชน์ที่ตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานที่แท้จริงของสมาชิก "บัตรบางจากแก๊สโซฮอล์ คลับ" ด้วยส่วนลดน้ำมันแก๊สโซฮอล์ ส่วนลดอื่นๆ จากบางจาก ร้านค้าพันธมิตร และสิทธิพิเศษบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินเฉพาะสมาชิกตลอด 24 ชั่วโมง


ผู้สนใจสามารถสมัคร "บัตรบางจากแก๊สโซฮอล์ คลับ" ได้ ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ร่วมรายการ ในราคาเพียง 100 บาท อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในคู่มือสมาชิกบัตรบางจากแก๊สโซฮอล์ คลับ

Ref : บางจาก

Minggu, 14 Juni 2009

รายชื่อ Black List

สำหรับผู้ที่จะถอยป้ายแดงทั้งหลาย รวมทั้งที่ถอยแล้วมาป้ายไม่แดงแล้ว
รายชื่อ Black List บริษัทประกัน (รถยนต์) ข้อมูลจาก บริษัท ทิสโก้ รู้ไว้ก็ดีนะ จากนสพ.ผู้จัดการ บ.ประกันดังกล่าวคือ
อันดับที่ 1. ลิเบอร์ตี้ประกันภัย มี ดร.พาชื่น รอดโพธิ์ทอง และพ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต ถือหุ้นใหญ่
อันดับที่ 2. มิตรแท้ประกันภัย (ไทยประสิทธิ์เดิม )
อันดับที่ 3. บ.สัมพันธ์ประกันภัย นายศรีศักดิ์ ณ นคร ถือหุ้นใหญ่

บ.ทั้ง 3 ข้างต้น อู่ต่าง ๆ ส่ายหน้าหนี ไม่รับรถเข้าซ่อมเพราะแต่ละบริษัทเบี้ยวค่าซ่อมหลายพันล้านบาท โดยลิเบอร์ตี้เป็นสุดยอดแห่งการเบี้ยวยังมี บ.ประกันภัยที่อยู่ในข่าย จะโดนอู่ต่าง ๆ ขึ้นบัญชีดำอีกคือ
อันดับที่ 4. บ.อาคเนย์ประกันภัย เพราะถึงแม้จะไม่ชักดาบแต่จะใช้ วิธี "HairCut " คือจะต่อรองกับอู่ว่าจะจ่ายให้น้อยกว่าค่าซ่อมที่ค้างไว้ซึ่ง อู่ต่างๆ หลายแห่งก็ต้องยอม เพราะไม่อยากยุ่งยากเรื่องฟ้องร้องยังมีอีกประเภท คือ จ่ายค่าซ่อมช้ามาก บางที่เป็นปีถึงจะชำระให้ ได้แก่
อันดับที่ 5. พัชรประกันภัย
อันดับที่ 6. เอราวัณประกันภัย
อันดับที่ 7. พาณิชยการประกันภัย บริษัทนี้ผมเพิ่งโดนสดๆร้อน รถชนมา 4 เดือนแล้วยังไม่ได้เริ่มแตะเลยเนื่องจากว่าไม่มีเงินจ่ายให้อู่ซ่อม พูดง่ายๆว่าจะเจ๊งแล้ว

ข้อมูลข้างบนนี้คงมีประโยชน์กับท่านที่กำลังมองหาบ.ประกันจะได้ไม่ต้อง เสียใจภายหลัง เพราะจ่ายเบี้ยประกันแล้ว ใคร ๆก็อยากได้รับบริการที่ดี ไม่มีตุกติก ช่วย ๆ กันกระจายข่าวให้ทราบทั่ว ๆ

Jumat, 12 Juni 2009

Toyota Aygo ราคาน่าทึ่ง


TOYOTA Aygo, Thailand's ECO Car. ราคาไม่ถึง 3 แสน (คุณเชื่อไหม)
--> แม้โครงการ ECO Car ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่นอน แต่คุณสมบัติหลัก ๆ เช่น
ต้องเป็น รถขนาดเล็ก ราคาถูก มีมลพิษต่ำ มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูง ซึ่งดูเหมือนว่า
TOYOTA Aygo สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน และถ้าโครงการ ECO Car
เกิดขึ้นจริงในอนาคต เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเห็นรถยนต์เซ็กเมนต์ใหม่อย่าง Aygo
มาทำตลาดในเมืองไทย
--> Aygo เป็นซิตี้คาร์ขนาดจิ๋ว มาพร้อมรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย
ติดตั้งเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i สามารถสร้างแรงม้าได้ 67
แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิด 9.4 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบ
เกียร์ธรรมดาแบบ Multi - mode Manual Transmission (MMT) ผู้ขับสามารถเปลี่ยน
เกียร์โดยที่ไม่ต้องเหยียบคลัตช์
หรือถ้าขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ก็สามารถเลือกโหมดอัตโนมัติได้
และยังมีเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.4 ลิตร 53 แรงม้า
สำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดอีกด้วย

--> ถึงแม้จะเป็นรถขนาดเล็ก แต่เรื่องระบบความปลอดภัยสามารถไว้วางใจได้ ด้วย
โครงสร้างตัวถังแบบ MICS (Minimal Intrusion Cabin System) ที่สามารถยุบตัว
และซับแรงกระแทกจากการชนทุกทิศทาง เพื่อรักษาโครงสร้างของห้องโดยสารไว้ จน
สามารถผ่านการทดสอบการชนของ Euro NCAP ในระดับ 4 ดาว ส่วนระบบความปลอดภัย
ด้าน Active safety ก็มีทั้งระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD

---> Aygo จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานแห่งใหม่ในสาธารณรัฐเชค ที่ทาง TOYOTA
ได้ร่วมมือกับ PSA Peugeot Citroen พัฒนารถขนาดเล็กและใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน
มีกำลังการผลิต 300,000 คันต่อปี และ 1 ใน 3 นั้นก็จะเป็น Aygo ทาง TOYOTA เปิดตัว Aygo ที่
ประเทศอังกฤษ เป็นที่แรกในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และตั้งยอดจำหน่ายในปีนี้ที่ 3,400 คัน และจะเพิ่มเป็น 13,000 คัน ในปี 2006

TOYOTA Aygo
รหัสเครื่องยนต์ 1KR-FE
แบบเครื่องยนต์ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซี.ซี.
กำลังสูงสุด 67 แรงม้า/6,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 9.4 กก.-ม./3,600 รอบ/นาที
ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
ระบบเกียร์ ธรรมดา 5 สปีด (MMT)
ระบบพวงมาลัย แร็ค แอนด์ พิเนี่ยน พร้อมเพาเวอร์ ESP
ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง) แม็คเฟอร์สันสตรัท/ทอร์ชั่นบีม
ระบบเบรก (หน้า/หลัง) ดิสก์/ดรัม
มิติ (ย. x ก. x ส.) 3,405 x 1,615 x 1,465 มม.
ความยาวฐานล้อ 2,340 มม.
ยาง 155/65 R14
น้ำหนักรถเปล่า 890 กก.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 14.9 วินาที
ความเร็วสูงสุด 157 กม./ชม.

Ref by : http://www.jabchai.com

รถ ECO Car

คาดคนไทยได้ใช้รถ ECO Car ภายในปี 2553 แน่นอน

Posted on Tuesday, October 16, 2007
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม ให้สัมภาษณ์เรื่องราคาน้ำมันผ่านรายการ Hard Topic ทาง Money Channel ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นเพราะปัญหาความไม่สงบในตุรกี การมีพายุไซโคลนก่อตัวขึ้นในทะเลแอตแลนติก รวมทั้งปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯ ก็อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และมีโอกาสแตะที่ 90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล แต่คงจะไม่สูงถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาเรล อย่างไรก็ตามถ้าปัญหาความไม่สงบที่ตุรกีคลี่คลาย และในช่วงเดือนธันวาคมนี้ สภาพอากาศไม่หนาวจนเกินไป ก็เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบจะเริ่มลดลงมา
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันขาย ปลีกในประเทศไทยนั้น นายอนุสรณ์บอกว่า ขณะนี้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 0.40 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลอยู่ที่ 0.70 บาทต่อลิตร ถ้าคืนนี้ (16 ต.ค.) ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์ปรับขึ้นในอัตราที่ใกล้เคียงน้ำมันดิบ ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินก็จะเป็นศูนย์ทันที ซึ่งจะมีผลให้ผู้ค้าน้ำมันต้องปรับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ อย่างไรก็ตามถ้า บมจ.ปตท. ไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นก็ไม่สามารถปรับราคาได้ เพราะจะมีผลต่อยอดขายทันที
นายวัลลภ เตียสิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรถยนต์นั่งประหยัดพลังงานตามมาตรฐานสากล (ECO Car) ว่า วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 จะเป็นวันสุดท้ายที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรถยนต์ ECO Car ยื่นแผนการลงทุน เพื่อขอรับการส่งเสริมการลงทุน โดยบอร์ด BOI จะพิจารณาสิทธิประโยชน์ตามขนาดการลงทุนของค่ายรถยนต์ โดยขณะนี้ฮอนด้าได้ยื่นแผนการลงทุนเพื่อขอรับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว ส่วนผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นคาดว่า อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสาร เพราะ ECO Car เป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงมีรายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
สำหรับราคารถ ECO Car นั้น นายวัลลภคาดว่า จะอยู่ที่คันละประมาณ 4 – 5 แสนบาท โดยราคาดังกล่าวกรมสรรพามิตได้ช่วยเหลือด้วยการเก็บภาษีเพียง 17% จากเดิมจัดเก็บอยู่ที่ 30% ถึงแม้ว่าราคาดังกล่าวจะต่ำกว่าราคารถนั่งขนาดเล็ก (B-Car) ไม่มากนัก แต่รถ ECO Car จะเป็นรถที่ประหยัดพลังงานและมีความปลอดภัยสูง เพราะต้องผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ ยุโรปแห่งสหประชาชาติ (UNECE) ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลก
ส่วนการที่ฟอร์ดกับมาสด้าประกาศขยายการลงทุนในไทยนั้น กรณีนี้ไม่ใช่การผลิตรถ ECO Car แต่เป็นการผลิตรถ B-Car ที่มีความจุของกระบอกสูบประมาณ 1,400 – 1,500 CC ซึ่งการขยายการลงทุนครั้งนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อ เศรษฐกิจไทย
ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์บอกว่า ปี 2550 จะเป็นปีแรกที่ไทยส่งออกรถยนต์ได้มากกว่าการจำหน่ายในประเทศ โดยคาดว่าจะส่งออกได้ 6.25 แสนคัน หรือคิดเป็น 52% ของจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ และจำหน่ายในประเทศ 48% ส่วนปี 2551 นิสสันจะย้ายฐานการผลิตมาที่ไทย ซึ่งจะทำให้ไทยส่งออกรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนคัน ส่วนปี 2552 – 2553 คาดว่าจะส่งออกเพิ่มเป็น 8 แสนคัน และหลังจากปี 2553 ยอดการส่งออกรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคัน เนื่องจากจะเริ่มมีรถ ECO Car ออกมาจำหน่ายในท้องตลาดแล้ว
นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เชื่อว่า รถ ECO Car น่าจะได้รับความนิยมสูงในอนาคต เพราะขณะนี้ยุโรป เอเชีย และญี่ปุ่น ต่างก็ใช้รถยนต์ที่มีขนาดเล็กและประหยัดพลังงานมานานแล้ว ส่วนสหรัฐฯ และออสเตรเลียก็เริ่มหันมาใช้รถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น นอกจากนั้นการที่ BOI กำหนดมาตรฐานการใช้เชื้อเพลิงของรถ ECO Car ไว้ที่ 20 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร ก็น่าจะทำให้รถรุ่นนี้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย
นาย อดิศักดิ์บอกว่า ขณะนี้ฮอนด้ากำลังพัฒนาเทคโนโลยีการประหยัดพลังงาน โดยที่ตัวรถยนต์ไม่จำเป็นต้องมีขนาดเล็กจนเกินไป เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกสบายมากที่สุด ส่วนประเด็นเรื่องราคาขายนั้น ทางฮอนด้ายังไม่ได้สรุปตัวเลขที่ชัดเจน
ติดตาม Hard Topic ทาง Money Channel True Visions 80 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 13.00 – 14.00 น.

ช่องทางการรับชม Money Channel: True Visions ช่อง 80, จานดาวเทียม Samart DTH ช่อง 08 และเคเบิลทีวีท้องถิ่นทั่วประเทศ ช่อง 30

Ref by :http://www.moneychannel.co.th

Senin, 08 Juni 2009

รถเข็น สำหรับคุณแม่ยุคใหม่

รถเข็น "สำหรับคุณแม่ยุคใหม่..เหมาะสำหรับคุณเเม่ยุคนี้" ด้วยความโดนเด่นสวยงานและลงตัว...ดัไซด์ล้ำสมัย...

ขั้นตอนแสนง่ายดายในการประกอบเป็นจักรยาน

มีน้ำหนักเบาแสนเบา


ช่วยลดอุบัติเหตุและมีความปลอดภัย...











Ref : http://siwawong.posterous.com

News TOYOTA Vigo

ข่าวล่าสุด มีการปรับเปลี่ยน vigo โฉมใหม่นี้ จริงเท็จประการใด ครับ...!!!

ราคาใกล้เคียงกับ รุ่นเดิม หรืเปล่าว...????
สำหรับ สเปกของเครื่องยนต์เท่าที่ทราบ จะเป้น เครื่องเดิม แต่เพิ่มแรงม้าและแรงบิดดังนี้

(ได้ยินเขาว่ามา จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้พอสมควร )

New Engin
เครื่อง ใหม่ 2500CC VN Turbo (เทอร์โบแปรผันรุ่นแรกในเครื่อง 2500 CC ซึ่งรุ่นนี้จะนำระบบการปรับครีบเทอร์โบแบบไฟฟ้า ที่ใช้ในเครื่อง 3000CC มาใส่ พร้อมกับปรับโปรแกรมกล่อง ECU ใหม่) ได้กำลัง 147 แรงม้า 360 นิวตั้น - เมตร ม้ามากกว่าเดิม 27 ตัว จาก 120 แรงม้า ในเครื่อง 2500CC Turbo - Intercooller

เครื่องเดิม
(แต่ปรับปรุงระบบไอดีเทอร์โบและโปรแกรม ECU ใหม่ )3000CC VN Turbo (เทอร์โบแปรผันปรับปรุงใหม่ล่าสุด) 176 แรงม้า 416 นิวตั้นเมตร

เต็มตากับภาพหลุด “วีโก้” ไมเนอร์เชนจ์ ก่อนเปิดจริง 3 ก.ย.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 28 สิงหาคม 2551 12:13 น.
จริง อยู่ที่บ้านเราเป็นทั้งตลาดใหญ่และฐานการผลิตใหญ่ของไฮลักซ์ วีโก้ แต่ดูเหมือนว่าสำหรับรุ่นไมเนอร์เชนจ์แล้ว จะโดนทางด้านใกล้เรือนเคียงอย่างมาเลเซียตัดหน้าไปแล้ว เพราะว่าทางตัวแทนจำหน่ายของโตโยต้าในมาเลเซียจัดการขึ้นป้ายรับจองวีโก้ ใหม่เวอร์ชันปี 2009 ออกมาแล้ว พร้อมกับเผยสเปกคร่าวๆ ของทั้งรุ่นตอนเดียวแบบไม่มีแค็บ และแบบดับเบิลแค็บ 4 ประตู ส่วนรุ่นแบบ 2 ประตูมีแค็บ หรือ Xtra Cab ยังไม่เปิดเผย

ไฮลักซ์ วีโก้ ที่ขายในมาเลเซียด้วยชื่อไฮลักซ์เพียงอย่างเดียวนั้น จากภาพที่เปิดเผยออกมาจะพบกับความแตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับรูปลักษณ์ด้าน หน้า โดยเฉพาะกระจังหน้าและกันชนหน้าลายใหม่ที่ดูสปอร์ตและดุดันขึ้น ส่วนภาพด้านท้ายและภายในยังไม่มีการเปิดเผยออกมาให้เห็นในตอนนี้ และเมื่อคลิกเข้าไปดูในส่วนของ Model รถของโตโยต้าที่ขายในมาเลเซียจะพบว่าส่วนของไฮลักซ์ถูกปรับใหม่หมดและมี เฉพาะโมเดล 2009 นี้ให้เลือกชมเพียงอย่างเดียว

ขณะที่เรื่องของรุ่น 2 ประตูแบบมีแค็บ ที่มีข่าวบางกระแสระบุว่าอาจจะเปลี่ยนจากแบบธรรมดามาเป็นแบบเปิดออกคล้ายตู้ กับข้าวเหมือนกับของมาสด้าและฟอร์ดนั้น ยังไม่มีภาพจริงๆ ออกมาให้เห็น แต่จากการที่ฟอร์ดออกมาลงโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ในเชิงตอกย้ำหรือตีลูกกัน ว่าเป็นปิกอัพรายแรกของเมืองไทยที่ทำประตูแบบนี้ออกมาขาย ก็พอที่จะทำให้ข่าว (ลือ) ชิ้นนี้มีน้ำหนักเป็นไปได้ว่ารุ่น Xtra Cab ของวีโก้อาจจะเป็นแบบแค็บเปิดได้เหมือนกับเรนเจอร์ และ BT-50

สำหรับรายละเอียดที่เปิดเผยออกมานี้ ในรุ่นตอนเดี่ยว Single Cab มีความยาว 5,130 มิลลิเมตร ซึ่งก็เท่ากับรุ่นเดิมก่อนปรับโฉม แต่ที่น่าสนใจคือ ตัวกระบะในรุ่นปรับโฉมของมาเลเซียมีความยาวเพิ่มขึ้นจากสเปกรุ่นเดิมของไทย ถึง 180 มิลลิเมตร ขยับจาก 2,135 มิลลิเมตรมาเป็น 2,315 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 4 ประตู Double Cab มีความยาวเพิ่มขึ้นจาก 5,130 มิลลิเมตรมาเป็น 5,225 มิลลิเมตร โดยที่ความยาวของกระบะเท่าเดิมที่ 1,520 มิลลิเมตร

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นที่เป็นสเปกสูงแบบเวอร์ชันขับเคลื่อน 4 ล้อของรุ่น 4 ประตูจะมีทั้งเครื่องเสียงแบบ 2 Din พร้อมเล่น MP3 และช่อง AUX เหมือนกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อในบ้านเรา ส่วนถุงลมนิรภัยเพิ่มจากแบบลูกเดียวเฉพาะคนขับมาเป็นแบบคู่หน้า และระบบเซ็นเซอร์สำหรับช่วยในการถอยหลัง

เครื่องยนต์สำหรับในมาเลเซียมีแบบเดียวกับ 2KD-FTV แบบ 4 สูบ คอมมอนเรล 2500 ซีซี 102 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะหรืออัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ ส่วนบ้านเรายังไม่มีการเปิดเผยว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หรือว่าจะมีสเปกความแรงเหมือนกับที่เปิดตัวในฟอร์จูนเนอร์ ไมเนอร์เชนจ์

ตอนนี้ทางมาเลเซียจัดการเปิดรับจองกันแล้ว พร้อมกับเปิดเผยราคาคร่าวๆ ออกมา ซึ่งแม้ว่าในรุ่นเดียวกันแต่ต่างรัฐต่างตัวแทนก็มีราคาไม่เท่ากัน เช่น รุ่น Single Cab 4x4 มีราคาเริ่มต้นที่ 68,500-74,500 ริงกิต หรือ 753,000-845,000 บาท และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบรถกันได้ในเร็วๆ นี้

ขณะที่เมืองไทยก็มีภาพสปอยช็อตของรถปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้” ไมเนอร์เชนจ์หลุดว่อนเผยทั่วอินเทอร์เน็ตตามเวปไซต์ต่างๆ และโตโยต้ากำหนดเปิดตัว วีโก้ ไมเนอร์เชนจ์ อย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กันยายนนี้
Ref : http://www.weekendhobby.com

Minggu, 07 Juni 2009

วีออสชน10ล้อ ย่างสดมรว.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 6 ธ.ค.

ร. ต.ท.โสภณ คงทอง ร้อยเวร สภ.ไชยา ช่วยราชการ สภ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุรถชนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณถนนเพชรเกษม หมู่ 8 ต.คลองไทร อ.ท่าฉาง ไปสอบสวนพร้อมกำลังและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา พบรถปิกอัพโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเขียว ทะเบียน ตง 290 กรุงเทพมหานคร จอดเสียหลักอยู่กลางถนน ใกล้กันพบรถบรรทุก 10 ล้อ ทะเบียน 77-2310 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ส่วนในร่องกลางถนนพบรถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน ชร 8496 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับและไฟกำลังลุกไหม้ท่วม

เจ้าหน้าที่รีบประสานขอรถดับเพลิงมาระงับเหตุใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสงบ

ปรากฏว่ารถถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน ตรวจสอบในซากรถตรงที่นั่งคนขับ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายศักดิ์ชัย สวนกุล อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/1 หมู่ 7 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโก นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือออกมาก่อนไฟลุกไหม้ คือนางสุนันทา สวนกุล อายุ 29 ปี ลูกสาวนายศักดิ์ชัย ส่วนอีกรายเป็นหญิง บาดเจ็บสาหัส ขาหักทั้ง 2 ข้าง ศีรษะแตกและบอบช้ำภายในอย่างรุนแรง หน่วยกู้ภัยฯ รีบนำทั้งสองส่งรักษาที่ รพ.สุราษฎร์ธานี แต่หญิงผู้บาดเจ็บที่ไม่ทราบชื่อได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ต่อมา ร.ต.ท.โสภณ ได้เดินทางไปยัง รพ.สุราษฎร์ธานี

เพื่อ สอบปากคำนางสุนันทาที่แพทย์รักษาจนพ้นขีดอันตราย แต่ยังต้องนอนรอดูอาการ โดยนางสุนันทาให้การว่า ทำงานเป็นพยาบาลที่กรุงเทพฯ ส่วนผู้หญิงที่เสียชีวิตชื่อ ม.ร.ว. ดวงพร วรวุฒิ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 286 หมู่ 9 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ที่รู้จักกับนายศักดิ์ชัย ผู้เป็นพ่อ ก่อนเกิดเหตุนั่งรถจากกรุงเทพฯ จะไปบ้านที่ อ.ทุ่งสง โดยมีนายศักดิ์ชัยเป็นคนขับ ตนนั่งคู่กับพ่อที่เบาะหน้า ส่วน ม.ร.ว.ดวงพรนั่งเบาะหลัง ถึงที่เกิดเหตุรถเสียหลักพุ่งข้ามร่องน้ำกลางถนนไปฝั่งตรงข้าม เฉี่ยวชนกับรถสิบล้อที่วิ่งสวนมา และถูกรถปิกอัพวีโก้ พุ่งชนซ้ำ จนกระเด็นพลิกตะแคงลงในร่องกลางถนนแล้วเกิดเพลิงลุกท่วม โชคดีที่มีพลเมืองดีช่วยกันดึงร่างของตน และ ม.ร.ว.ดวงพรออกมาได้ ส่วนพ่อถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาซากรถ


ภายหลังในช่วงเย็นวันที่ 7 ธ.ค. ร.ต.ท.โสภณ เปิดเผยว่า

กรณี ที่นางสุนันทาให้การว่า ผู้หญิงที่เสียชีวิตอีกคนชื่อ ม.ร.ว.ดวงพร วรวุฒิ นั้นเป็นการให้ปากคำโดยไม่มีเอกสารยืนยัน เนื่องจากหลักฐานถูกไฟไหม้ เสียหายหมด ล่าสุดได้รับการติดต่อจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นญาติของ ม.ร.ว.ดวงพร บอกว่าชื่อนางบุปผา วรวุฒิ ณ อยุธยา จะเดินทางมารับศพในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ อย่างไร ก็ตาม ต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อหาข้อเท็จจริงและสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามญาติของนายศักดิ์ชัย สวนกุล ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการเปิดเผยว่า นายศักดิ์ชัยไม่ทราบว่ามีอาชีพอะไร เนื่องจากพักอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่มักจะเดินทางมาที่ อ.ทุ่งสง เป็นประจำ บางครั้งก็ขับรถเบนซ์หรือรถราคาแพงพาบุคคลที่ไม่รู้จักหน้ามาด้วยเกือบทุก ครั้ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี
Ref: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โตโยต้า เรียกรถเข้าซ่อมกว่าล้านคัน..!


ข่าวต่างประเทศ - เพิ่งยินดีกับตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกไปได้ไม่นาน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชันเจองานเข้าทันที เมื่อประกาศเรียกรถยนต์กลับคืนมาซ่อมแซม หรือ Recall กว่า 1.35 ล้านคันทั่วโลก หลังตรวจพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับชิ้นส่วนในเข็มขัดนิรภัย และอุปกรณ์ในระบบไอเสีย

จากการเปิดเผยของ TMC ระบุว่า รถยนต์ที่มีการเรียกกลับคืนมาซ่อมแซมในญี่ปุ่นมีจำนวน 525,898 คันเป็นเจนเนอเรชันในรถยนต์ซับคอมแพ็กต์รุ่น.......

วิตซ์ หรือยาริส, เบลต้า หรือวีออส" และแร็คติส

ซึ่งถูกผลิตออกจำหน่ายในช่วงเดือนมกราคม 2005 จนถึงเดือนเมษายน 2008

ส่วนในตลาดโลกทั้งยุโรป, อเมริกาเหนือ และตลาดแห่งอื่นๆ จะมีการ Recall รถยนต์ทั้ง 3 รุ่นนี้กลับมาแก้ไขเรื่องของ ระบบเข็มขัดนิรภัย และท่อในระบบ EGR หรือ exhaust-gas recirculation ด้วยเช่นกัน รวมทั้งสิ้นอีก 830,000 คัน

มีรายงานเปิดเผยว่าเกิดรถยนต์ไฟไหม้ในญี่ปุ่นเพราะข้อบกพร่องด้านการ ออกแบบที่ผิดพลาดของระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเข็มขัดนิรภัย เมื่ออุปกรณ์ซึ่งทำหน้าที่ในการดูดซับเสียง ซึ่งมีลักษณะคล้ายโฟม เกิดละลายในจังหวะเดียวกับที่ระบบลดแรงกระชากของเข็มขัดนิรภัยทำงานขณะที่ เกิดอุบัติเหตุ

-ส่วน เรื่องของระบบท่อใน EGR นั้นไม่มีรายงานเรื่องของอุบัติเหตุหรือความเสียหาย นอกจากว่าตัวท่ออาจแตกหรือหัก และทำให้ระบบการทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ทางด้านโตโยต้าไม่ได้ออกมาประกาศถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการ Recall รถยนต์กลับมาซ่อมแซมในครั้งนี้

Ref : http://www.oknation.net

Sabtu, 06 Juni 2009

ไบโอดีเซล B5 “แพะรับบาป”


ไบโอดีเซล B5 “แพะรับบาป” ของอาการ “วูบ ดับ ขณะรถวิ่ง”

ในเครื่อง คอมมอนเรว DENSO (VIGO,FORTUNER,INNOVA,D-MAX,TRITON…)


วัตถุประสงค์

1. เพื่อแจ้งเตือนภัยถึงผู้ใช้รถ (VIGO,FORTUNER,INNOVA, D-MAX TRITON. ที่ใช้ปั๊มคอมมอนเลว ของDENSOถึงอาการ“วูบ เร่งไม่ขึ้น ขณะเร่งแซงหรือขณะกลับรถ”
2. เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงว่า อาการวูบ เร่งไม่ขึ้นนั้นในรถคอมมอนเลวของ DENSO ไม่ได้เกิดจากคุณสมบัติการหล่อลื่นของน้ำมันไบโอดีเซล B5 แต่เกิดจากข้อบกพร่อง ของการออกแบบที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ของบริษัทDENSO ที่ทำให้เกิดรอยสึกเฉพาะด้าน ซ้ายบนของ valve scv จนทำให้เกิดการติดขัดขึ้น แรงดันน้ำมันจึงน้อยและทำให้เกิดไฟรูป เครื่องโชว์ เร่งไม่ขึ้น
3. เพื่อกระตุ้นต่อมจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคม “Corporate Social Responsibility” ผลกำไรของบริษัท.” สำคัญมากกว่า “ชีวิตของลูกค้า.” ของบริษัทDENSO และ TOYOTA
4. ขอความร่วมมือในการ FW MAIL แจ้งเตือนคนไทย
เพราะ ชีวิต "ของคนไทย" มีค่ามากกว่า"ผลกำไรของบริษัทรถ


http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6990753/V6990753.html
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7011444/V7011444.html
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7014092/V7014092.html http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V7003409/V7003409.html
http://www.fortuner-club.com/webboard/questions.asp?QID=32693
http://www.innovaclub.net/SMF-Board/index.php/topic,6378.0.html
http://fortuner-club.com/webboard/questions.asp?QID=31450
http://fortuner-club.com/webboard/questions.asp?QID=29125
http://www.newvigoclub.com/BoardTalk2.asp?id=Q000009672;1
http://www.newvigoclub.com/BoardTalk2.asp?id=Q000010025;1
http://www.vigothailand.com/board/index.php?topic=8195.0
http://www.bbznet.com/scripts2/view.php?user=clubsdmax&board=1&id=50213&c=1&key=scv
http://www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=5895&highlight=scv

จากการที่ผู้ใช้รถยนต์ระบบคอมมอนเลวของ“DENSO”

(VIGO,FORTUNER,INNOVA,DMAX,TRITON…)

ตรวจพบอาการ“วูบ เกือบดับ เร่งไม่ขึ้นขณะเร่งแซงและกลับรถ

สตาร์ทติดยากเครื่องสั่นเบาดับ "ไฟรูปเครื่องยนต์โชว์”เป็นจำนวนมากนั้น

เป็นที่น่าสังเกตคือ จะพบอาการ”วูบขณะเร่งแซงนี้” กับรถที่ใช้ปั๊มคอมมอนเลวที่ผลิตจาก บริษัท”DENSO”

(อาการวูบไม่เกิดขึ้นกับรถที่ใช้ปั๊มคอมมอนเรว ของBOSCH เช่น ford mazdaทั้งที่เติมน้ำมันB5)

(DENSO ซื้อ ลิขสิทธิ์ ระบบ คอมมอนเรล มาจากBOSCH การซื้อลิขสิทธิ์ เป็นการซื้อKNOW HOW เหมือน กับ การที่เราอยากเปิดร้านกาแฟ ไปซื้อเฟรนไชส์มา ชงกาแฟขายได้ แต่ถ้าถามว่า เมล็ดกาแฟต้องคั่วที่อุณหภูมิกี่องศา เราก็ตอบไม่ได้เพราะเราไม่ใช่ผู้คิดค้น DENSO ทำ C&D copy& DEVELOPMENT แบบลองผิดลองถูกครับ ไม่ได้คิดเองแบบผู้คิดค้นระบบ ที่มี R&D ครับ รู้ว่าหลักการออกแบบควรระวังอะไรบ้างะบบ )

โดย ผู้ใช้รถดังกล่าว ยังมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถเป็นยานพาหนะ ในชีวิตประจำวัน และยังไม่ได้รับการแจ้งเตือนภัยอันตรายจากอาการ วูบ ขณะเร่งแซง นี้จาก ทั้งบริษัทผู้ผลิตหรือ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากอาการ”วูบ เร่งไม่ขึ้น เกิดขึ้นตอนเร่งแซง หรือ กลับรถ” นั้น อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิตและ ทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทยโดยส่วนรวม เพราะมีรถที่มีปัญหา

“วูบ เร่งไม่ขึ้นขณะเร่งแซง”วิ่งอยู่บนท้องถนนหลายล้านคัน โดยเจ้าของรถดังกล่าว ไม่ทราบข้อมูลนี้

ประกอบกับอาการ“วูบ ดับ เร่งไม่ขึ้น ขณะรถวิ่ง”ก็เคยเกิดขึ้นในประเทศกลุ่มอียู 25 ประเทศ

จนอียูต้องประกาศเตือนภัย"โตโยต้าไฮลักซ์"

http://www.naewna.com/news.asp?ID=384

อียู เตรียมส่งกลับ รถโตโยต้า หลังพบผลิตต่ำกว่ามาตรฐาน พร้อมเตือน 25 สมาชิกผ่านเว็บไซต์

เนื้อหาการเตือนภัยของEU ตอนหนึ่งระบุว่า

"บางครั้งเครื่องยนต์ยังหยุดทำงาน ในขณะที่ขับเคลื่อน"

ซึ่งอาการดังกล่าว ตรงกับผู้ใช้รถในปท.ไทย ที่มีอาการ”วูบ เร่งไม่ขึ้น ขณะเร่งแซง”เครื่องสั่น เบาดับ start ยาก

http://ec.europa.eu/consumers/dyna/r...pex_search.cfm

แล้วพิมพ์คำว่า”hilux”ลงในช่องsearch

Vehicle’s parts / fuel tank’s float –

Type/model:TOYOTAHilux.

Description: The recall concerns vehicles produced from 28.6.2005 to 19.12.2005.Country of origin: ThailandandS.Africa.

Riskofinjury.

In certain Hilux models, when operating in conditions of low exterior temperature and with a small quantity of fuel in the tank, there is a possibility of entering air in the fuel pump, through the pipe that returns the fuel. Such an eventuality may result in failing to start the engine or interruption of its operation.

ในหลายประเทศ ที่ใช้pumpคอมมอนเลว denso รุ่นนี้ อยู่ ก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่า

“ปัญหาอาการวูบเร่งไม่ขึ้นขณะเร่งแซงเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร”

แต่มาตรฐานการปกป้องดูแลประชาชนประเทศเค้า กับ คนไทย มันช่างต่างกันมาก

ภาพลักษณ์อุตสาหกรรมที่ผลิตจากประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง ในสายตาของชาวโลก “เหมือนที่คนไทยเรารู้สึกกับสินค้าที่มาจากจีน”

วิธีแบบไทยๆๆคือ ใช้เงิน ปิดสื่อ ปิดข่าว แก้ข่าว โฆษณาใช้เงินปีละ 3000-4000 ล้านบาท อัดโฆษณาเยอะๆๆ จะได้

“สมยอมกันไป แก้ข่าว ปิดข่าว ปกปิดข้อบกพร่องของรถยนต์ด้วย ....ผลประโยชน์”.

แต่“ไม่ได้ไปแก้ที่เหตุแห่งความบกพร่องของรถยนต์”

นี่เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคน ต้องมองเห็นเป็นปัญหาสังคมเหมือนกัน และช่วยกันแก้ครับ.....

ปกติแล้ว หน้าที่ของ น้ำมันเชื้อเพลิง ดีเซลจะมีหน้าที่อยู่ 3 ประการคือ

1 ระบาย ความร้อนให้ชิ้นส่วนของปั๊มเชื้อเพลิงที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง จะเกิดความร้อนเกิดขึ้น เค้าจึงใช้ น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นตัวระบายความร้อนให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว

2 น้ำมันเชื้อเพลิง มีหน้าที่ ในการหล่อลื่นชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวในระบบปั๊มแรงดันสูง ดังนั้น ไบโอดีเซลB5 นั้นมีคุณสมบัติการหล่อลื่นที่ดีกว่าดีเซลธรรมดาB2 จึงต้องหล่อลื่นได้ดีกว่า แน่นอน

3 มีหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงให้พลังงานในการขับเคลื่อน.....

สิ่งที่เค้าลือกันว่า "เติมไบโอดีเซลB5 แล้วทำให้เครื่องคอมมอนเรวพัง มีอาการวูบ เร่งไม่ขึ้น start ติดยาก เครื่องสั่น เบาดับ นั้น"

ไม่ได้ตั้งอยู่บนข้อเทจจริงครับ เพราะ

1 คุณสมบัติการหล่อลื่น ไบโอดีเซล B5 ดีกว่า น้ำมันดีเซลธรรมดา B2

2 ทำไม คนเราถึงกลัวผีทั้งที่เราไม่เคยมองเห็น เพราะเราถูกทำให้เชื่อ น้ำมันก็เช่นกันครับ เวลาเราเติมน้ำมัน เราก็ไม่เคยเห็นเลยว่าน้ำมันหน้าตา สีเป็นอย่างไร เพราะเรามองไม่เห็น เวลา เกิดปัญหาขึ้น เราจึงโทษ น้ำมันไว้ก่อน ประกอบกับการปล่อยข่าวลือที่ผิดๆๆออกมาจากบริษัทรถที่ขาดความรับผิดชอบครับ เพราะนำรถเข้าศูนย์ก็จะบอกว่า ที่เกิดอาการ วูบดับ ขณะวิ่ง เป็นเพราะ” เติมไบโอดีเซลB5 “
ซึ่งอาการ “วูบ เร่งไม่ขึ้น ขณะเร่งแซง และขณะกลับรถ ” และ สตาร์ทติดยาก เครื่องสั่น เบาดับ "ไฟรูปเครื่องยนต์โชว์"

นั้นอาการดังกล่าวเกิดจาก” การเคลื่อนที่แบบเลื่อนไปมาตามแนวนอน ของ valve ใน scv เกิดการติดขัดเนื่องจาก”รอยสึกที่เกิดขึ้นเฉพาะด้านซ้ายบน” จึงทำให้ ปริมาณน้ำมันที่ป้อนเข้าปั๊มแรงดันสูง ส่งไปที่รางคอมมอนเลว น้อยกว่า แรงดันเป้าหมาย ไฟรูปเครื่องจึงโชว์ เร่งไม่ขึ้น”


(scv จะ ทำหน้าที่เหมือนเป็นก๊อกน้ำ เพื่อส่งปริมาณน้ำมันป้อนเข้าปั๊มคอมอนเลวเพื่อสร้างแรงดันสะสมในราง โดยการหรี่หรือเพิ่มปริมาณน้ำมัน จะถูกควบคุมจาก ecu ทำให้เกิดการเคลื่อนที่แบบslidingตามแนวราบ โดยการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า ขวางทางเดินน้ำมันเพื่อหรี่หรือเพิ่มปริมาณน้ำมัน ส่งไปยังปั๊มแรงดันสูง )

โดยสถานการณ์ที่valveในscvจะเกิดการติดขัดมากที่สุด นั้นจาการ RESEARCH พบว่า
อาการวูบ เร่งไม่ขึ้นเกิดขึ้นในสถานการณ์
1. จะกดคันเร่งเพื่อ เร่งแซง
2. กดคันเร่งออกจากโค้ง
3. กดคันเร่งตอนกลับรถ
4. ขึ้นเนินชันนั้น
5. start ติดยาก เครื่องจะสั่น เบาดับ ในรอบต่ำ แต่ถ้ากดคันเร่งช่วยจะติด แต่เบาคันเร่งไม่ได้
ส่วนใหญ่ จะพบว่า ไฟรูปเครื่องโชว์ เร่งไม่ขึ้น




3 หากไฟรูปเครื่องโชว์เร่งไม่ขึ้น ให้ท่านบิดกุญแจมาตำแหน่ง off แล้วstart ใหม่ เครื่องจะกลับมาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะ สปริงที่อยู่ท้าย valve จะเตะ valve ที่ติดอยู่ในกลับมาตำแหน่งปกติครับ รถท่านจึง กลับมาปกติ และหากเอารถเข้า0 ก็หาสาเหตุไม่เจอครับ เพราะตอนท่านเอารถเข้า0 valve มันไม่ติด
4 จากการออกแบบที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงนี้ ทำให้ รถที่ใช้ปั๊มคอมมอนเลวของdenso รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น VIGO FORTUNER INNOVA D-MAX TRITON ทุก คันเจอปัญหาวูบ ทุกคันครับ แต่ขึ้นอยู่กับระยะของการสึก และอัตราการสึก โดยพบว่า ในรถรุ่นใหม่ กลับมีอัตราการสึกที่มากกว่ารถรุ่นเดิม รถใหม่บางคันวิ่งได้แค่ 15000-20000 กมก็เกิดอาการวูบดับแล้ว....

จึงส่งสัญญาณกลับไปที่ ecu ประมวลผล และขึ้นเป็น IDEL MODE เพื่อ
"รักษาเครื่องยนต์ แต่ไม่รักษาชีวิตคนขับ" ไฟรูปเครื่องเลยโชว์ เร่งไม่ขึ้น ในขณะที่เราเร่งแซงครับ

แต่จุดที่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึง การออกแบบที่ขาดมาตรฐานความระมัดระวังจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงคือ รอยการสึกของvalve ใน scv นั้น เกิดการสึกเฉพาะ ตำแหน่ง ด้ายซ้ายบน เท่านั้น ไม่ได้สึกเป็นรอบวงกลมของผิวสัมผัสVALVE ซึ่ง เป็นมูลเหตุ ที่สามารถชี้ชัดได้ว่า การสึกที่เกิดขึ้นเฉพาะ ตำแหน่งด้านซ้ายบนนั้น ไม่ได้เกิดจากคุณสมบัติการหล่อลื่นของน้ำมันดีเซลที่เติมเลย เพราะ ในรถ ที่เติม น้ำมันดีเซล B2 B5 V-POWER ล้วนแต่มีการสึกที่ตำแหน่งด้านซ้ายบนเหมือนกันหมด
และผมขอยืนยันด้วยเกียรติ แห่งวิชาชีพ วิศวกรรมควบคุมว่า จะเกิดรอยสึกของvalve ที่เฉพาะตำแหน่งด้านซ้ายบน เหมือนกันหมด กับรถที่ใช้ปั๊ม คอมมอนเลว denso รุ่นนี้ scv แบบนี้ทุกคันในโลก

ผมขออนุญาติอธิบายเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตามข้อเท ็จจริงที่เกิดขึ้นคือ
1 การสึกหรอที่เกิดขึ้นที่valve ของ scv” เฉพาะผิวด้านซ้ายบนเท่านั้น ไม่ได้สึกเป็นรอบวงกลม” เป็น มูลเหตุที่ชี้ชัดได้ว่า รอยสึกที่เกิดนั้นไม่ได้มีสาเหตุมาจากคุณสมบัติการหล่อลื่นของน้ำมันดีเซล แต่เกิดจาก ข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรง ในการออกแบบ ที่บริษัทผูผลิต DENSO “ใช้น้ำมัน B5 เป็นแพะรับบาป”
2 ไม่ ว่าท่านจะเติมน้ำมัน B2 B5 V-POWER ก็เกิดการสึกเฉพาะด้านซ้ายบนทุกคัน ทำให้มีอาการวูบขณะขับขี่ได้หมดทุกคัน เพราะเป็นข้อผิดพลาดจากการออกแบบ "ที่ลวงคนทั้งโลก".
3 หากไฟรูปเครื่องโชว์เร่งไม่ขึ้น ให้ท่านบิดกุญแจมาตำแหน่ง off แล้วstart ใหม่ เครื่องจะกลับมาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะ สปริงที่อยู่ท้าย valve จะเตะ valve ที่ติดอยู่ในกลับมาตำแหน่งปกติครับ รถท่านจึง กลับมาปกติ และหากเอารถเข้า0 ก็หาสาเหตุไม่เจอครับ เพราะตอนท่านเอารถเข้า0 valve มันไม่ติด
4 จากการออกแบบที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงนี้ ทำให้ รถที่ใช้ปั๊มคอมมอนเลวของdenso รุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น VIGO FORTUNER INNOVA D-MAX TRITON ทุกคันเจอปัญหาวูบ ทุกคันครับ แต่ขึ้นอยู่กับระยะของการสึก และอัตราการสึก โดยพบว่า ในรถรุ่นใหม่ กลับมีอัตราการสึกที่มากกว่ารถรุ่นเดิม รถใหม่บางคันวิ่งได้แค่ 15000-20000 กมก็เกิดอาการวูบดับแล้ว....
5 การแก้ไข โดยการเปลี่ยน scv ใหม่ นั้นไม่ใช่ "ทางแก้ปัญหาครับ"
" เปลี่ยนscvใหม่ เหมือนกับการ เริ่มต้น นับหนึ่ง ของรอยสึกเฉพาะด้านซ้ายบนใหม่" แล้วมันก็สึกจนติดอีก ตราบใดที่วิศวกร ของDENSO ยังแแยกไม่ออกระหว่าง อาการ (SYMPTOM) และปัญหาที่แท้จริง(PROBLEM)
6 เป็นเรื่องที่สังคมไทย ควรประณามในพฤติกรรมของ บริษัท DENSOที่แอบทดลองเปลี่ยน valve ใน scv มากกว่า 4-5 แบบโดยไม่ได้แจ้งเตือนผู้ใช้รถซึ่งทำให้รถ “วูบ เร่งไม่ขึ้น ขณะเร่งแซง” โดย สุดยอดเทคโนโลยี" คอมมอนเลว DENSOได้ใช้“ทฤษฎีลองผิดลองถูก โดยใช้ชีวิตคนไทยเป็นหนูลองยา”และยังแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะ”ขาดมาตรฐานความระมัดระวังในการออกแบบที่ผิดพลาดอย่าง ร้ายแรง
7 ช่วยกันกระจายข่าวสารนี้ แจ้งเตือนภัยผู้ใช้คนไทยด้วยครับ เพราะมีรถ vigo fortuner innova d-max triton วิ่งอยู่บนท้องถนนหลายล้านคัน โดยเจ้าของรถไม่รู้ว่า รถนั้นพร้อมจะเกิดอาการวูบเร่งไม่ขึ้นขณะแซง
8 ต้อง หามาตรการมากดดันรัฐบาลญี่ปุ่น ให้ออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และช่วยกันแจ้งให้ หน่วยงานองค์กรต่างๆๆของโลก ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อ กอบกู้ ภาพลักษณ์ อุตสาหรรมของไทย ที่ถูกปู้ยี่ปู้ยำ โดยบริษัทญี่ปุ่น ที่ไม่รับผิดชอบชีวิตคนไทย และคนทั้งโลก....
9 บริษัทDENSO และ TOYOTA (DENSO และ TOYOTA คือ กระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา )เห็นความสำคัญของผลกำไรของบริษัท มากกว่า ชีวิตของคนไทยทั้งประเทศ และใช้
" การโยนบาปให้น้ำมันb5" ที่ พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงสิทธิบัตรการผลิตน้ำมันไบโอดีเ ซล จากปาล์มน้ำมัน ซึ่งพระองค์ท่าน ทรงสิทธิบัตร ทรงคิดค้น เพื่อ คนไทยทั้งประเทศครับ.....แต่กลับถูกบริษัทญี่ปุ่น บิดเบือนข้อเท็จจริง ว่าสาเหตุ อาการวูบ ขณะขับขี่ ในรถ คอมมอนเลว denso เกิดจากน้ำมันb5 ผมคนไทยยอมไม่ได้ครับ.....สร้างความเข้าใจผิดให้คนไทยทั้งประเทศมาโดย ตลอด.....


จาก เหตุผล ดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นเรื่อง ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่คนไทยทุกสาขาอาชีพ ที่จะต้องร่วมมือกันกระจายข่าวสารข้อมูลนี้ ให้ผู้ใช้รถหลายล้านคันได้รับทราบ และเข้าถึงข้อมูล เพื่อยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับคนไทยทุกคน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม

บริษัท DENSO และ TOYOTA ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนนั้น การมุ่งแสวงหาแต่ผลกำไรไม่ใช่สิ่งที่ผิด แต่จะต้องมี

“Corporate Social Responsibility” (ความรับผิดชอบต่อสังคม)

ไม่ใช่ เห็น”ผลกำไรของบริษัท.” สำคัญมากกว่า “ชีวิตของลูกค้า.”.....
ถ้าผู้บริโภค “อ่อนแอ”.......... จิตสำนึก และความรับผิดชอบ ของ บริษัท DENSO ก็จะ”อ่อนแอตาม”..

Ref: http://www.oknation.net/blog/preechasan